การประชุมเตรียมการด้านสารัตถะ สำหรับการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีเนปาล และอินเดีย

เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 เวลา 11.00 น. ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้มอบหมายให้นางเกษราภรณ์ วิมลรัตน์ ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ เข้าร่วมการประชุมเตรียมการด้านสารัตถะ สำหรับการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล และนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐอินเดีย ในเดือนเมษายน 2568 ณ ห้องประชุม 4401 อาคารสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล

การเยือนของผู้นำระดับสูงในครั้งนี้ เป็นโอกาสสำคัญที่ผู้นำของทั้งสองประเทศจะได้ร่วมกันผลักดันความร่วมมือในด้านต่าง ๆ อาทิ การเกษตร การค้า ความมั่นคง รวมถึงการท่องเที่ยวในระดับทวิภาคี ระหว่างกัน สำหรับความร่วมมือทวิภาคี ไทย-เนปาล โดยมีจุดเด่นสำคัญ ได้แก่ การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนาและการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ โดยเนปาลมีความโดดเด่นด้านสมุนไพร และสามารถนำมาบูรณาการกับไทย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระหว่างกันได้ ทั้งนี้ แม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวเนปาลที่มาไทย และนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ไปเนปาล ยังมีไม่มากนัก แต่ก็มีถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพซึ่งจะพัฒนาต่อยอดความร่วมมือได้ โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามีความประสงค์ที่จะผลักดันการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับเนปาล การพิจารณาส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในการพัฒนาเครื่องมือการจัดเก็บสถิติ และบัญชีประชาชาติระหว่างกัน รวมถึงการส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยวร่วมกัน ในงานแสดงสินค้าการท่องเที่ยว และงานส่งเสริมการขายต่าง ๆ ควบคู่ไปกับการผลักดันการเพิ่มเส้นทางบินตรงไปยังเมืองท่องเที่ยวอื่น ๆ โดยต้องหารือร่วมกับสายการบินต่อไป เพื่อพิจารณาข้อมูลเชิงลึกถึงความคุ้มทุน และประสิทธิภาพในการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้ไปมาหาสู่กันมากขึ้น

ในส่วนของความร่วมมือทวิภาคี ไทย – อินเดีย ที่ผ่านมาไทยได้ผลักดันความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างไทยและอินเดียในด้านต่าง ๆ ในหลายระดับ โดยมีประเด็นสำคัญ ได้แก่ การสนับสนุนการเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างกัน ซึ่งในภาคการท่องเที่ยว อินเดียถือเป็นตลาดท่องเที่ยวศักยภาพที่สำคัญของไทย โดยในปี พ.ศ. 2567 มีนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเดินทางมาไทยกว่า 2.12 ล้านคน มากเป็นอันดับ 3 ของกลุ่มนักท่องเที่ยวขาวต่างชาติที่เดินทางมาไทยทั้งหมด และสามารถสร้างรายได้ให้ภาคการท่องเที่ยวของไทยกว่า 1.67 ล้านล้านบาท ซึ่งในปัจจุบัน กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาประสงค์ที่จะผลักดันการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง เพื่อกระจายนักท่องเที่ยวชาวอินเดียให้เดินทางเข้ามาในไทยมากขึ้น (นอกเหนือจากเมืองท่องเที่ยวหลัก ๆ ที่นักท่องเที่ยวชาวอินเดียนิยมเดินทางไป) อาทิ พังงา สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต (พื้นที่ใหม่ นอกจากหาดป่าตอง) และผลักดันการส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบศักยภาพ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ และการท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนา พร้อมทั้งพิจารณาดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยว Coperate และ Incentive รวมถึงกลุ่ม Honeymoon Wedding และ Digital Nomad ของอินเดียให้เดินทางมาไทยมากขึ้น

นอกจากนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาประสงค์จะประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์อินเดียในไทย โดยในปี พ.ศ. 2567 มีกองถ่ายภาพตร์อินเดียมาถ่ายทำในไทย 57 เรื่อง และสร้างรายได้จากการถ่ายทำสูงถึง 357 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบัน ไทยได้ปรับมาตรการคืนเงินให้กับกองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศ เป็นร้อยละ 15 – 30 ของวงเงินลงทุนในไทยตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป

ทั้งนี้ ในปี พ.ศ. 2568 เป็นไปแห่งการท่องเที่ยวอาเซียน – อินเดีย และเป็นปีแห่งการท่องเที่ยวและกีฬา Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยกรมการท่องเที่ยว อยู่ในระหว่างการพิจารณาจัดอบรมทักษะภาษาฮินดีให้กับบุคลากรด้านการท่องเที่ยวของไทย และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย อยู่ในระหว่างการหารือเพื่อเป็นเจ้าภาพจัดงาน ASEAN-India Tourism Forum

https://www.facebook.com/photo/?fbid=1056564973182692&set=pcb.1056565083182681